LDC หุ้นคลีนิคทำฟันที่ออกจะเหนื่อยๆหน่อย
ในปีที่แล้วทางผู้บริหารได้แจ้งออกมาว่าที่ผลประกอบการขาดทุนส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนตั้งสาขาใหม่และค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาด ปีหน้าจะมีการลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง วันนี้เรามาลองติดตามผลกันหน่อยว่าเป็นยังไงกันบ้าง
Q1 2560 เขามีรายได้เพิ่มขึ้น 10% รายได้จากสาขาเก่าเพิ่ม 3.36 ล้านบาท รายได้จากสาขาใหม่เพิ่ม 7 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดก็ลดลงตามที่ผู้บริหารได้เคยให้ข้อมูลเอาไว้ แต่เขาก็ยังคงขาดทุนอยู่เหมือนเดิมประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าปีที่แล้วเขามีรายได้พิเศษเข้ามา (ภาษีกับค่าปรับ)
สาเหตุที่บริษัทยังคงขาดทุนนั้นก็เพราะว่า ลูกค้าเขาไม่มากพอจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำ ซึ่งถ้าเกิดว่าใครที่เคยไปดูราคาของคลีนิคจะพบว่าค่อนข้างแพงกว่าท้องตลาด และพฤติกรรมของลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่ถ้าเกิดว่าทำกับหมอคนไหนแล้วก็มักจะทำกับหมอคนนั้น (เชื่อใจ) แม้จะเป็นคลีนิคข้างทางแต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไร ลูกค้าก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาทำฟันในราคาที่แพงกว่า ในเมื่อของเดิมก็พอได้
และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ บุคลากรทางการแพทย์โดยปกติจะมีเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง ทำให้เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท คราวนี้เมื่อบริษัทขยายสาขาไปมากๆ สาขาใหม่ที่ไม่ค่อยมีลูกค้ามาถัวๆกับสาขาเก่ามันก็เลยส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่พุ่งแต่รายได้ไม่โต มันก็เลยขาดทุน คงต้องอาศัยเวลาอีกสักพักกว่าจะมีลูกค้ามาติด
——————————————————————–
แล้วมันจะกลับมาทำกำไรไหม?
อันนี้เป็นคำถามที่ดี ทางบริษัทไม่ได้แจ้งเรื่องของการเพิ่มของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ออกมาชัดเจน (ทางเรา ลงทุนหุ้น คิดว่าที่ไม่เอามาโชว์ก็เพราะมันไม่สวยสักเท่าไหร่) แต่มีข้อมูลส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือรายได้จากสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น 4% มันก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า ธุรกิจก็พอไปได้แต่คงไม่หวือหวาสักเท่าไหร่ ถ้าสภาพยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งคงกลับมากำไร อีก 2 ปีหรือ 3 ปี เราไม่รู้ แต่ที่เรารู้ก็คือต่อให้เขากลับมาทำกำไรในเมื่อพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง กำไรก็จะไม่หวือหวาอะไรแต่คงค่อยๆโตไปเรื่อยๆมากกว่า
คำแนะนำในการลงทุน : เราไม่แน่ใจว่าระหว่างลิเวอร์พูลได้แชมป์กับ LDC ทำกำไรอย่างไหนจะเกิดขึ้นก่อนกัน (ล้อเล่นนะ 555+)