นี้คือเส้นทางชีวิตของคนๆหนึ่งที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไร จนกระทั้งก้าวมาเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลก เขาทำได้อย่างไร? เรามาดูเส้นทางชีวิตของเขาโดยเรียงไปตามลำดับปีว่าเขาทำอะไรไปบ้าง มีสินทรัพย์เท่าไหร่ในตอนอายุเท่านั้น

11 ปี

เริ่มต้นซื้อหุ้น Cities Service ครั้งแรก แต่ขายหมูไป เริ่มต้น 38 ราคาหุ้นตกไปที่ 27 ต่อราคาหุ้นขึ้นไปที่ 40 เลยตัดสินใจขาย และในเวลาไม่นานราคาก็วิ่งไปที่ 200 เหรียญ ทำให้เขาได้หลักคิดว่า ถ้าหุ้นดีไม่จำเป็นต้องขาย และนี้จะเป็นหนึ่งในหลักคิดที่สำคัญที่สุดของเขาในเวลาต่อมา ตอนนี้เขามีสินทรัพย์รวม 200 เหรียญ

 

13 ปี

ประกาศกับที่บ้านว่าจะเป็นเศรษฐีเงินล้านก่อนอายุ 30 ปี หรือไม่เขาก็จะไปกระโดดตึกที่สูงที่สุดในโอมาฮ่า

 

15 ปี

ทำเงินได้ 175 เหรียญต่อเดือนจากการส่งหนังสือพิมพ์ Washington Post ตอนนี้มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1200 เหรียญ

 

17 ปี

บับเฟตและเพื่อนทำธุรกิจพินบอล เอาไปตั้งไว้ใกล้ๆร้านตัดผม (คนที่มารอตัดผมไม่มีอะไรทำก็จะเล่นเจ้าเครื่องนี้) ปรากฏว่ากำไรดี เขาวางเพิ่มอีก 2 เครื่อง โดยต้นทุนที่ซื้อมาเพียงเครื่องละ 25 เหรียญ แล้วขายต่อธุรกิจนี้ออกไป 1,200 เหรียญ ในตอนนี้เขามีสินทรัพย์รวม 5,000 เหรียญแล้ว

 

19 ปี

ทำงานเก็บเงินจากการส่งหนังสือพิมพ์จนมีสินทรัพย์รวม 9,800 เหรียญ

 

20 ปี

ไปสมัคร Harvard แต่เขาไม่รับ หลังจากนั้นไปที่ Columbia ได้เจอกับเบนจามิน เกรแฮม

 

21 ปี

เขาจบการศึกษาแล้ว และได้ทำงานใน  Wall Street และเขาได้เสนอตัวเองทำงานให้เบนจามิน เกรแฮมฟรี แต่เขาปฏิเสธ ในปีนี้เองเขาได้แต่งงานแล้ว

 

24 ปี

ไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์กับ เบนจามิน เกรแฮมได้เงินเดือน 12,000 เหรียญ/ปี ตอนนี้ที่เขาได้เรียนรู้หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าจากเบนจามิน เกรแฮม

 

26 ปี

สินทรัพย์ของบับเพต เติบโตขึ้นจาก 9,800 เหรียญ กลายเป็น 140,000 เหรียญ และก่อตั้ง Buffett Associates, Ltd. เพื่อทำธุรกิจรับลงทุน โดยระดมเงินทุนจากญาติพี่น้องได้เงินมา 105,000 เหรียญ หลังจากนี้ไปเขาจะไม่ทำงานให้ใครอีกแล้ว ในตอนนี้เบนจามิน เกรแฮม เกษียรตัวเองแล้ว

 

28 ปี

ทำให้เงินกองทุนเพิ่มเป็น 2 เท่าได้

 

29 ปี

มีคนแนะนำให้รู้จักกับ Charlie Munger คนที่จะเป็นรองประธาน เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ในอนาคต เป็นเพื่อนคู่คิดคนสำคัญของเขาและเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของกันและกัน ทันทีที่ได้พบกันทั้ง 2 ถูกชะตาและเริ่มต้นทำงานด้วยกันทันที

 

30 ปี

ไปหาหมอเพื่อให้มาเพิ่มทุนในห้างหุ้นส่วนอีก 11 คน ทุกคน OK หมด ได้เงินมาเพิ่มอีก 110,000 เหรียญ (ยังไม่ไปกระโดดตึกที่สูงที่สุดในโอมาฮ่านะ)

 

31-32 ปี

ตอนนี้ Buffett Associates, Ltd. จากเงินลงทุนเริ่มต้น 105,000 เหรียญ ตอนนี้มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 7.2 ล้านเหรียญ ตอนนี้บัฟเฟตมีเงินล้านเป็นครั้งแรก เขาได้ปรึกษากับ Charlie Munger ในการลงทุนใน Dempster ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตกังหัน โดยเขา OK และในปีนี้เองที่เขาลงทุนใน เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์โดยคิดว่าบริษัทจะซื้อหุ้นคืนแต่ผู้บริหารไม่ทำตาม และกลายมาเป็นการลงทุนที่แย่ที่สุดในชีวิตเขา

 

33 ปี

เขาขายหุ้น Dempster  ได้ในราคา 3 เท่าของที่ซื้อมา

 

34 ปี

ด้วยเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการฉ้อโกง American Express ราคาลงมาอยู่ที่ 35 เหรียญ บัฟเฟตเริ่มต้นเก็บหุ้นครั้งใหญ่

 

35 ปี

เริ่มต้นซื้อ Walt Disney หลังจากที่พบเจ้าของ โดยซื้อ 5% ของบริษัท, ราคาหุ้น American Express เพิ่มเป็น 2 เท่าของที่ซื้อมา ตอนนี้เขาซื้อ Berkshire Hathaway ทั้งบริษัทและเป็นเจ้าของแล้ว

 

36 ปี

เขามีสินทรัพย์รวม 6,849,936 เหรียญ

 

37 ปี

บัฟเฟตมีเงิน 10 ล้านเหรียญ และบริษัทของเขามีสินทรัพย์รวม 65 ล้านเหรียญ American Express ขึ้นมาแตะ 180 เหรียญแล้ว ขึ้น 5 เท่าของที่บัฟเฟตเคยจ่าย และได้ซื้อ National Indemnity Insurance ในราคา 8.6 ล้านเหรียญ

 

38 ปี

ตอนนี้บริษัทมีสินทรัพย์รวม 104 ล้านเหรียญ

 

39 ปี

เขาปิดบริษัท โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่สามารถหาหุ้นถูกได้อีกต่อไป และแบ่งกำไรให้กับทุกคน และส่วนของบัฟเฟตคือ 25 ล้านเหรียญ

 

40 ปี

ตอนนี้เขามีหุ้น 29% ใน เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์และเริ่มต้นเขียนจดหมายถึงนักลงทุน บริษัทมีกำไร $45,000 จากธุรกิจสิ่งทอและ $7 ล้านจากประกัน, ธนาคารและการเงิน

 

43 ปี

เขาเริ่มต้นซื้อบริษัท Washington Post Company ในตอนนี้ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว เขาดีใจมาก สิ่งที่เขาคิดถูกต้องว่าตลาดหุ้นแพงเกินไป

 

47 ปี

ราคาหุ้นเริ่มตกต่ำ ความร่ำรวยของ บัฟเฟต ลดลงมา 50% ตอนนี้เขาซื้อบริษัท Buffalo Evening News และภรรยาขอหย่า (ไม่ได้หย่าอย่างเป็นทางการ)

 

49 ปี

เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ตอนนี้มีราคาต่อหุ้นที่ 290 เหรียญ และความมั่งคั่งของเขาอยู่ที่ 140 ล้านเหรียญ แต่เขาจ่ายเงินเดือนตัวเองเพียงแค่ 50,000 เหรียญต่อปี เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์เริ่มต้นซื้อหุ้น ABC

 

53 ปี

เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์มีพอร์ตหุ้นรวมทั้งสิ้น 1.3 พันล้านเหรียญ ตอนนี้หุ้นของ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์เริ่มต้นปีอยู่ที่ 775 เหรียญและปิดปีอยู่ที่ 1310 เหรียญ บัฟเฟตมีสินทรัพย์ส่วนตัวอยู่ที่ 620 ล้านเหรียญ ในปีนี้เองเขาเริ่มติดอันดับในฟอร์จูนเป็นครั้งแรก และเขาได้ซื้อ Nebraska Furniture Mart และนี้เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตเขา

 

55 ปี

ปิดธุรกิจสิ่งทอแล้วและได้ซื้อบริษัท Scott & Fetzer ในราคา 315 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นบริษัทขายสารานุกรม

 

56 ปี

ตอนนี้ราคาหุ้น เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์อยู่ที่ 3000 เหรียญต่อหุ้นแล้ว

 

58 ปี

เขาได้ซื้อ Coca-Cola ในราคา 1.02 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ทำเงินให้เขามากที่สุดในชีวิต

 

59 ปี

ราคาหุ้น เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ขึ้นมาจาก 4800 เหรียญต่อหุ้นมาอยู่ที่ 8,000 เหรียญต่อหุ้น ตอนนี้เขามีเงินทั้งสิ้น 3.8 พันล้านเหรียญ

 

78 ปี

เขาได้หลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

 

87 ปี

เขามีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านเหรียญ ราคาหุ้นปัจจุบันของเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ (A) อยู่ที่ 293,680 เหรียญต่อหุ้น

 

เรียบเรียงจาก

thebalance.com

Learn How Warren Buffet Became One of the Wealthiest People in America