หุ้น 27 เด้งใน 4 ปี จากมูลค่าตลาด 318 ล้านบาทไปสู่ 8,844 ล้านบาท ถ้าลงทุนหุ้นตัวนี้เมื่อ 4 ปีก่อน 1 ล้านบาทจะกลายเป็นเงิน 27 ล้านบาทในปัจจุบัน

หุ้นตัวนี้คือบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมซึ่งเขาจะทำทั้งแต่สร้าง ฉีดพลาสติกขึ้นรูป ไปจนกระทั้งถึงการประกอบชิ้นส่วนให้ ซึ่งเขาบอกว่าชิ้นส่วนพลาสติกที่เขาผลิตได้นั้นมีความแตกต่างจากพลาสติกทั่วไปเพราะพลาสติกเกรดพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในด้านความแข็ง การทนความร้อน

ลักษณะลูกค้าลูกค้าเอาแบบมาให้ผลิต 33.1% ไปช่วยเขาออกแบบและผลิตให้ 66.9% เรามองว่า 2 ส่วนนี้ไม่ต่างกันดังนั้นพูดรวมๆก็คือเขาเป็น OEM ผลิตชิ้นส่วนนั้นเอง

ความถนัดของเขาก็คือเขาผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องโทรสาร, เครื่องพิมพ์ ซึ่งตัวอย่างของลูกค้าก็คือ OKI, Canon, Ricoh, Mitsubishi, Sharp เป็นต้น รายได้จากส่วนนี้คิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือก็มีมาจากชิ้นส่วนรถยนต์บ้าง 11.47%

และถ้าวิเคราะห์ลงไปหน่อยเขาบอกว่าเขาผลิตชิ้นส่วนให้ให้เครื่อง Faxและ Printer ซึ่งเครื่อง Fax ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นใครใช้เท่าไหร่ หลักๆก็คงเป็นเครื่องพิมพ์ ซึ่งเครื่องพิมพ์ในตลาดหลักๆมีอยู่ไม่กี่เจ้า มี HP, Canon, EPSON, Brother, Fuji, Samsung ดังนั้นเราขอคาดคะเน ว่าลูกค้าที่เขากำลังทำธุรกิจด้วยคือรายใหญ่

เรื่องของคู่แข่ง จากรายงานเขาก็เล่าให้ฟังต่อว่าในอุตสาหกรรมนี้มีคู่แข่งที่ทำคล้ายๆกันอยู่ประมาณ 5 ราย แต่ว่า 5 รายนี้ก็กระจายกันไปตามความถนัดของตัวเอง บางรายก็ไปทำชิ้นส่วนให้รถ บางรายก็ไปทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า เลยไม่ได้แข่งกันตรงๆ ดูเหมือนจะไม่มีคู่แข่งแต่ว่าถ้าเราไปมองกำไรก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ 3-5% สร้างรายได้ 700 ล้านบาท แต่ได้กำไรได้แค่ 26.71 ล้านบาท เหตุผลนั้นก็เพราะว่า ธุรกิจที่เขาทำอยู่มันเล็กเกินกว่าที่รายใหญ่จะสนใจลงมาทำเองและเขาต้องไปขายสินค้าให้กับรายใหญ่มากๆ สิ่งที่ตามมาก็คือรายใหญ่ก็ต่อรองราคาและเหลือกำไรให้บริษัทนิดหน่อย ผลคือกำไรของบริษัทไม่ได้มากเท่าไหร่

พอมาถึงเรื่องของกำลังการผลิต มันก็เรื่อยๆมาสักพัก อัตราการใช้อยู่ที่ 70% กว่าๆ ไม่ได้เพิ่มอะไร รายได้จากอุตสาหกรรมนี้ก็ค่อนข้างอิ่มตัวทรงๆ

แต่ว่านั้นคือภาพในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ผู้บริหารเขาเลยออกไปแสวงหาโอกาสใหม่ๆด้วยการไปซื้อบริษัท C4 ที่ประเทศสวีเดน ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเขาทำได้ดีซะด้วย

ใน 2 ไตรมาสที่ผ่าน ปี 2016 บริษัทรับเหมานี้ทำรายได้รวมกันทั้งสิ้น 708 ล้านบาท และธุรกิจโรงงานฉีดพลาสติกของเขาทำได้รายได้เพียง 356 ล้านบาท เรียกว่ารายได้เกือบ 2 เท่าใหญ่กว่าธุรกิจดั้งเดิมอีก ถ้าเทียบกับปีที่แล้วในงวด 6 เดือน รายได้ของเขาเติบโตไปแล้ว 2 เท่าจากยอดเดิม เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันว่าอนาคตจะโตต่อไปได้อีกขนาดไหน

แต่ว่าอันนี้ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของเขาธุรกิจพัฒนาอสังหาของเขา เขาต้องใช้เงินในการลงทุนมาก ซึ่งเรามองๆดูแล้วถ้าเขาจะจับโครงการที่ใหญ่ๆ ธนาคารไม่ปล่อยกู้แน่ อาจจะมีเพิ่มทุนอีกหลายๆรอบ ถ้าพร้อมที่จะก้าวไปกับเขาก็ลุยกันเลย

ถ้าใครสนใจหุ้นตัวนี้ต้องเน้นวิเคราะห์ไปที่ตัวพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เลยเพราะนี้คืออนาคตของเขา

ควาเห็นของเรา ลงทุนหุ้น : คราวนี้ก็มาอยู่ที่ความฝันของผู้บริหารแล้วว่าจะใหญ่ขนาดไหน คงต้องฟังจากประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากตอนที่พิมพ์เสร็จนี้ตี 4 ครึ่ง นั่งฟังต่อคงไม่ไหว เดี๋ยวถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมจะมาอัพเดทเพิ่ม

ปล. น่าคิดว่าทำไมถึงไม่เลือกที่ไทย แต่ออกไปไกลถึงสวีเดนเลย