HOTPOT : บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน)
เป็นหุ้นที่ลุ้นมานานว่าจะกลับมาทำกำไรไหมแต่ก็ไม่กลับมาเหมือนไปแล้วไปลับ รายได้ของธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่ถดถอย ทางบริษัทให้เหตุผลว่าที่เขากำไรลดลงเพราะ สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี, ต้นทุนอาหารเพิ่มและการสูญเสียในกระบวนการผลิตมีสูง วนๆอยู่อย่างนี้มาหลายปีแล้ว เรามาลองวิเคราะห์กันหน่อยว่าเหตุผลที่เขาบอกมานี้มีนัยยะอะไรหรือเปล่า
—————————————————-
เรื่องเศรษฐกิจไม่ดี : ข้อนี้เราขอตัดทิ้งไป เพราะไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีหน้าที่ของผู้บริหารคือต้องนำพาธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตให้ได้
—————————————————-
เรื่องของต้นทุนอาหาร : อันนี้น่าสนใจเพราะว่าธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ถ้าเกิดว่าต้นทุนอาหารสูงขึ้นเขาต้องปรับราคาอาหารให้ขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าเกิดว่าเราลองมองย้อนไปที่ธุรกิจของเขาจะพบว่ารายได้ 84.46% มาจากธุรกิจฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์ เมื่อเป็นบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเหมาจ่ายเช่นหัวละ 379 บาทกินเท่าไหร่ก็ได้ เมื่อลูกค้าเลือกที่จะกินพวกบุฟเฟ่ต์ระดับกลางๆ เขาไม่ได้มองที่คุณภาพของอาหารเป็นหลักแล้ว เขามองไปราคาเป็นหลัก คุณภาพอาหารถ้าไม่แย่มากก็ OK ถ้าเกิดว่าร้านอาหารไหนที่สามารถเสนอราคาที่ถูกกว่าได้ลูกค้าก็จะวิ่งไปทางนั้น ผลที่ตามมาก็คือบริษัทไม่สามารถขึ้นราคาได้มาก นับว่าเป็นเรื่องที่แย่
ข้อคิด : ธุรกิจที่ไม่สามารถขึ้นราคาได้คือหายนะ
—————————————————-
เรื่องของการสูญเสียในกระบวนการผลิต : อันนี้ก็น่าสนใจเพราะว่าธุรกิจบุฟเฟ่ต์ ส่วนใหญ่ต้องทำอาหารเสร็จแล้วเอาไปตั้งเอาไว้ ตั้งน้อยไปลูกค้าก็แช่ง ตั้งมากไปก็ขาดทุน ส่งผลให้มีของเสียมากมายที่ต้องทิ้ง
อีกเรื่องก็คือเมื่อเป็นบุบเฟ่ต์ต้นทุนที่เกิดขี้นก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของลูกค้าแล้วว่าจะกินเท่าไหร่ ลูกค้ากินเยอะกำไรก็เหลือน้อย จะลดต้นทุนโดยเอาสินค้าเกรดต่ำมาขายก็ไม่ได้อีก จะลดต้นทุนพนักงานก็ไม่มีใครมาทำงาน
ข้อคิด : ธุรกิจที่คุมต้นทุนไม่ได้ เหนื่อยมาก
—————————————————-
ทางเรา ลงทุนหุ้น มองว่าที่ธุรกิจเขาไม่ทำกำไรก็เพราะว่า โมเดลธุรกิจเขาที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ราคาก็ขึ้นไม่ได้ ต้นทุนก็คุมลำบาก จะเปลี่ยนโมเดลธุรกิจก็ไม่ได้เพราะนี้คือสิ่งที่เป็นจุดขาย ผลคือมันก็มึนๆกลายเป็นว่าชีวิตเราเอายังไงดี
คำแนะนำในการลงทุน : ฉันยังรอคอยปาฏิหาริย์ เชื่อว่าวันหนึ่งจะมาถึงครึ่งหนึ่งของฉันที่มันขาดหายไป
ปล. ส่วนผสมของหายนะคือ
1. ขึ้นราคาขายไม่ได้
2. คุมต้นทุนไม่ได้