สินค้าของ Arrow เป็นท่อสำหรับงานระบบในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา ระบายอากาศ และรวมไปถึงงานก่อสร้างและวิศวกรรมภายใน และมีบริษัทย่อย 2 บริษัททำเรื่องรับเหมางานระบบในอาคารและธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยี ซอฟท์แวร์

 

พัฒนาการที่สำคัญ เริ่มต้นปี 2531 ทำธุรกิจท่อ 2538 ขยายมาทำท่อลม 2540 ไปตั้งโรงงานใหม่ 2545 ได้รับ ISO 9001 2548 ทำไปท่อสำหรับงานไฟฟ้า 2549 ได้รับมาตรฐาน มอกและ UL สำหรับการส่งออก 2552 ทำท่อน้ำประปา ที่เหลือก็พัฒนาโรงงานมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มทุนพัฒนาโรงงาน ขอ BOI

 

กลยุทธ์ตัวแทนจำหน่ายไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก บริษัทยังขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 68% บริษัทรับเหมาก่อสร้าง 15% OEM 10% ต่างประเทศ 7%

 

จุดเด่นของบริษัทคือบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

กำลังการผลิตมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยจะแบ่งเป็น 2 อย่างคือ ท่อร้อยสายไฟ NON-BOI ใช้กำลังการผลิตที่ 78.28% BOI ใช้เต็มที่ 93.85% ท่อร้อยสายไฟฟ้าแบบอ่อน 62.65% ท่อสายไฟแบบอ่อนกันน้ำ 87.23%

 

ท่ออากาศ 57.63% ท่อระบายอากาศ 57.63% ปรับตัวลงคือจะเปลี่ยนสินค้าเป็นตัวใหม่ ท่อสำหรับงานก่อสร้าง 81.97% ท่อสายไฟฟ้าใต้ดิน 68.87% อันนี้เป็นแบบผลิตตามคำสั่งซื้อ แต่ว่าก็มีผลิตเตรียมไว้บางส่วน เอาไว้รับมือกับโครงการสายไฟฟ้าลงดิน ไม่ได้มีแต่โครงการของการไฟฟ้า แต่มีของคอนโดด้วย เพราะว่า เมื่อระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าลงดินแล้ว ถ้าจะเชื่อมต่อก็ต้องใต้ดินเช่นกัน กำลังขยายตัวเพื่อปรับตัว ส่วนใหญ่ทิศทางอยู่แบบทรงๆ

 

โครงการทีได้มามีมากมายไม่ว่าจะเป็นรัฐสภาแห่งใหม่, สุวรรณภูมิ เฟส2, โรงไฟฟ้าบางประอิน, โรงพยาบาลสินแพทย์, มหาวิทยาลับเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และอื่นๆอีกมาก

โครงสร้างรายได้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักรายได้ส่วนใหญ่อยู่ที่ท่อร้อยสายไฟ 60.54% ที่ดูเหมือนลดความจริงไม่ได้ลด เพราะว่าท่อสำหรับงานก่อสร้างมันโตขึ้น ท่อสำหรับงานก่อสร้าง 20.03% ระบายอากาศ 7.56% การให้บริการ 9.67%

 

รายได้ส่วนใหญ่ก็ทรงๆโตขึ้นหน่อยๆ แต่จะมีรายได้จากท่อระบายอากาศที่เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท, ท่องานก่อสร้างโต 7 ล้านบาท งานบริการโต 9.1 ล้าน ท่อสายไฟฟ้า 3.66 ล้าน อัตราส่วน ส่วนใหญ่ทรงๆ ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารลดลง

แต่ว่าที่เป็นนัยยะหน่อยคือ อัตราภาษีเงินได้ที่จ่ายเพิ่มมากขึ้นมาจากบัตร BOI หมด ส่งผลให้จากจ่ายภาษีอยู่ที่ 8.7 ล้านโดดขึ้นมาที่ 14.4 ล้านบาท

ต้นทุนขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ส่วนที่เป็นนัยยะคือต้นทุนเหล็กอาบสังกะสีที่มีความผันผวนมาก ครึ่งปีแรกโดนหนักแต่ว่าครึ่งปีหลัง Ok ขึ้น

 

สต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมากถึง 2 เท่า ทางบริษัทให้เหตุผลว่ามาจากการรับมือกับความผันผวนของวัตถุดิบ เงินกู้ระยะสั้นก็มาจากการที่บริษัทไปกู้มาผลิตสินค้าตุน

 

โครงการในอนาคต บริษัทจะเพิ่มเครื่องจักรผลิตท่อร้อยสายไฟ 10 ล้านบาท เสร็จช่วง 30 กันยา 60, ปรับปรุงกระบวนการผลิตอุปกรณ์ท่อก่อสร้าง 5 ล้านบาทเสร็จช่วง 30 กันยา 60, เพิ่มสายการผลิตอุปกรณ์สำหรับงานก่อสร้างในระบบ Post-Tension 35 ล้านบาทเสร็จช่วง 31 ธันวา 60

 

โครงการก่อสร้างปี 2016-2017 อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านล้านบาท ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก

——————————————————————

ถามตอบ

ถาม : ทางบริษัทสามารถที่จะ Hedge ได้ไหม?

ตอบ : มันมองไม่เห็นทิศทางว่าจะไปทางไหน เราไม่สามารถคาดเดาว่าจะไปทางไหน เราเห็นความจงใจในการเพิ่มราคาของผู้ผลิตบางราย แต่เราจะใช้การผลิตและการเก็บสต๊อกเอาไว้เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องนี้

 

ถาม : BOI 3 ที่ได้มาใหม่นี้ช่วยได้หรือเปล่า?

ตอบ : BOI ใบเก่าหมดไปแล้ว เห็นผลแล้ว AEC BOI เราไม่จำเป็นต้องใช้เพราะว่าเหมือนกับ BOI 3 ส่วนใดที่เราสามารถใช้สิทธิ์ได้เราจะทำ

 

ถาม : ไตรมาส 3 ดีขึ้นไหม?

ตอบ : ตอบตรงๆไม่ได้ Backlog ตอนนี้เพิ่มขึ้น ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการกังวลเรื่องวัตถุดิบหรือเปล่า โครงการภาครัฐช่วงนี้ก็กำลังดีอยู่ รับเหมา น่าจะเป็นเชิงบวก ค่าเงินไม่มีผลมากนักเพราะว่าบริษัทไม่ได้ค้าขายเงินดอลลาร์เป็นหลัก ต่างประเทศเช่นพม่ามีบ้าง

 

ถาม : Backlog ใช้เวลาในการรับรู้กี่ไตรมาส?

ตอบ : โดยปกติใช้เวลาในการดูไม่เกินปี

 

ถาม : สินค้าสต๊อกที่ผลิตมียอดขายหรือยัง?

ตอบ : เราผลิตจากคำสั่งซื้อทั้งสิ้น