สิ่งที่จะได้เห็นในบทความนี้
– อีกด้านหนึ่งของ Banpu ว่าธุรกิจไฟฟ้าและ Shale gas เขาเป็นอย่างไร
ธุรกิจโรงไฟฟ้า
EBITDA ที่มาจากโรงไฟฟ้าของ BANPU ในไตรมาสที่ผ่านมาโตประมาณ 48% กำไรขึ้น 76% เป็น 1.8 พันล้านบาท นักลงทุนปลื้มไปตามๆกันเรามาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรที่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นได้มากขนาดนี้
ทางบริษัท Banpu แจ้งว่าไตรมาสที่ผ่านมากำไรเพิ่มขึ้นสูงมากหลักๆมาจากโรงไฟฟ้าหงษาและโรงไฟฟ้า BLCP
BLCP EAF (Equivalent Availability Factor เป็นหน่วยที่บอกว่าโรงไฟฟ้าผลิตได้มีประสิทธิ์ภาพขนาดไหนยิ่งเยอะยิ่งดี) โตจาก 96% เป็น 100% ในไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ Ebitda โต 20% เป็น 2,400 ล้านบาท
โรงไฟฟ้าหงษา EAF โตจาก 70% เป็น 87% ทำให้ Ebitda โตเป็น 4.2 พันล้านบาท โตขึ้น 50% กำไรส่งกลับมาที่ Banpu Power 1,100 ล้านบาท และถ้าเกิดว่าสังเกตดีๆจะเห็นว่ายังมีช่องให้โตขึ้นไปอีก
ส่วนโรงไฟฟ้าที่ต่างประเทศของ BANPU จะแบ่งออกเป็น 2 ที่คือที่จีน-มองโกเลียและที่ญี่ปุ่น มีรายละเอียดดังนี้
ที่ญี่ปุ่นความสามารถในการผลิตเพิ่ม 18.4% เพิ่มขึ้น 6 ตอนนี้มีอยู่ในพอร์ตแล้ว 131MW แต่ว่าใช้งานจริงอยู่ที่ 12.6Mw % และมีโครงการใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 28MW ทางบริษัทก็มีความพยายามดีขยันหามาเรื่อยๆ ตอนนี้ยังคงไม่เห็นรายได้จากส่วนนี้แต่ในอนาคตน่าจะเป็นพอร์ตที่ใหญ่พอสมควร
ที่จีนมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 152 MW ตอนนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จีนเป็น Low Season เพราะว่าเป็นหน้าร้อน Ebitda ลดลงไป 38 ล้านหยวน (190 ล้านบาท) Solar Farm มีรายได้ 43 ล้านหยวน (215 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 66%
ตอนนี้มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีก 620 MW แบ่งเป็น
500 Mw ที่เพิ่มขึ้นมานี้มาจากโครงการ Luannan เฟส2-3 และโครงการ SLG 1-2
120 เป็นพลังงานแสงอาทิตย์มาจากที่ญี่ปุ่น
ทางบริษัทบอกว่าตอนนี้เรามีโรงไฟฟ้ากำลังการผลิตรวม 2.07 GWe ในปี 2017 มีโครงการที่อยู่ในแผนงานก่อสร้างแล้วจะเข้ามาในระบบอีก 620 MW รวมจะมีกำลังไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ 2.67 GWe ในปี 2019 แต่ว่าเป้าหมายของบริษัทยังคงชัดเจนอยู่ บริษัท BANPU ต้องการที่จะเพิ่มไฟฟ้าเข้ามาในพอร์ตจนกระทั้งมี 4,300 ในปี 2025 หลังจากนี้ทางบริษัทยังคงต้องทำงานอีกมาก
ธุรกิจ Shale Gas
ธุรกิจส่วนของ Shale Gas บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 3.7 ล้านคิวบิกฟุต เป็น 4.1 คิวบิกฟุตเพราะว่าไปลงทุนเพิ่ม รายได้เพิ่มขึ้นจาก 7.3 ล้านเหรียญเพิ่มเป็น 8.2 ล้านเหรียญก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาตามลำดับตามปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น
ราคาขายก๊าซธรรมชาติก็ลดลงหน่อยจาก 3.03 เป็น 2.87 เหรียญตามราคาตลาด ธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจเล็กๆอยู่ของ BANPU ยังคงต้องมองยาวๆ
สรุปผลประกอบการเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหลักๆก็เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจถ่านหิน Ebitda เพิ่มขึ้นจาก 97 ล้านเหรียญเป็น 215 ล้านเหรียญ ไฟฟ้าก็ดีขึ้นจากหงษา
กำไรเติบโตจากไตรมาสที่ 1 จาก 41 ล้านเหรียญโตขึ้นเป็น 66 ล้านเหรียญ ส่วนใหญ่มาจากภาษีที่ลดลงและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและการ Hedge ที่น้อยลง
ข้อมูลอืิ่นๆที่น่าสนใจ
Shale Gas มีเป้าหมายหรือเปล่าว่าจะไปยังไง?
ยังใหม่อยู่กะว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 300 ล้านเหรียญเป็น 500 ล้านเหรียญ ตอนนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 46 ล้านคิวบิกฟิตต่อวัน ถ้าเกิดว่าลงทุนเพิ่มจะมีกำลังการผลิตเป็น 76 ล้านคิวบิกฟิตต่อวัน ในปี 2020
โรงไฟฟ้าที่สร้างรายได้สูงคิดว่ามีการหยุดใหญ่ๆบ้างไหม? คดีความว่าจะไปจบที่ตรงไหน?
คดีหงษาไม่ได้รับการแจ้งกำลังรออยู่เหมือนกันต่อให้แง่ร้ายที่สุดก็มั่นใจว่ามีเงินจ่าย โรงไฟฟ้าปกติจะหยุดกันอยู่แล้วทุกปี BLCP เดิมเครื่องมาแล้ว 10 ปีจะหยุดปลายปีนี้ 70 วันและต้นปีหน้าอีก 70 วัน (ลงทุนหุ้น : โอ้ข่าวร้าย)