เพิ่งมาได้วิเคราะห์บริษัท SPCG ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเรื่องไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงมาก เกือบแตะ 50% อัตรากำไรขึ้นต้นสูงเกือบ 63.98% อาจจะพูดได้ว่ามากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ไทยตอนนี้เลยก็ว่าได้ สูงชนิดที่ว่าบริษัทเครื่องสำอางยังต้องยอมแพ้

ธุรกิจหลักของเขาก็คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขายให้กับการไฟฟ้าประเทศไทยและมีรับจ้างติดตั้ง-ดูแลให้คนอื่นบ้าง ตอนนี้รายได้จากส่วนนี้ก็เติบโตดีสวยงาม โดยรายได้จากการรับจ้างผลิตและติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 16% ในปีที่ผ่านมา

 

แต่ถ้าเกิดว่าเรามองไปที่ PE ของหุ้นตัวนี้จะเห็นว่าค่อนข้างถูกมาก เพราะว่า บริษัทนี้มี PE อยู่ที่ประมาณ 9 เท่ากว่าๆเท่านั้นเองทั้งๆที่เพื่อนๆในอุตสาหกรรมของเขามี PE ขึ้นไปที่ 15 หรือบางเจ้า 20 กว่าไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเหตุผล โดยมีเรื่องราวดังนี้

 

เรื่องราวของบริษัทนี้เริ่มต้นจากเมื่อประมาณช่วงปี 2551-2553 เป็นปีแรกๆที่รัฐบาลประกาศแผนสนับสนุนธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งในตอนนั้นเรื่องพลังงานทดแทนยังไม่ได้รับความนิยมมาเท่าไหร่ รัฐบาลอยากจูงใจคนให้เข้ามาทำ เลยตั้งราคารับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ในราคาที่สูงมากคือ Adder +8 บาท (ความหมายคือเนื้อไฟประมาณ 3 บาทและบวกตรงนี้เข้าไปอีก 8 บาท) ผลคือบริษัทนี้อยู่ในวงการนี้มานานแล้ว เห็นปุ๊บก็หวานหมู คำนวณอะไรแล้วคุ้มค่าหมด เลยจัดการเสนอตัวเข้าไปทำและกวาดมาได้หลายโครงการมาก (ชื่นชมเจ้าของเขานะที่รู้จักคว้าโอกาสทองเอาไว้ได้) ผลจากการที่ไปกวาดโครงการเหล่านั้นมาเมื่อสร้างเสร็จก็ทำให้กำไรเขากระโดดพุ่งอย่างมหาศาล จากเมื่อ 7 ปีก่อนยังเป็นบริษัทจิ๋วกำไรไม่ถึง 10 ล้านบาท ผลจากนโยบายรัฐในครั้งนี้ทำให้บริษัทมีกำไรพุ่งขึ้นเป็น 2500 กว่าล้านบาท พลิกชีวิตกันเลยทีเดียว แต่พอเวลาผ่านไปรัฐบาลก็คิดว่าคงจ่ายแพงไปหน่อย เมื่อประมาณปี 2556-2558 เลยเปลี่ยนเป็นรูปแบบ Feed-in Tarriff (FiT)

 

แต่ประเด็นก็คือสิ่งที่ทำให้บริษัทนี้มีราคาถูก อยู่ที่อายุของสัญญาที่ทำกับการไฟฟ้าไว้ว่าจะรับซื้อกันอยู่ 10 ปี ซึ่งขณะนี้เวลาได้ผ่านมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว (แต่ละโครงการไม่เท่ากันนับจากวันเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)) และคำถามที่น่าสนใจก็คือ “ถ้าเกิดว่า Adder 8 บาทหมดไปจะเป็นยังไง?” นี้คือคำถามที่น่าคิด

 

แต่ว่าบริษัทก็รู้ถึงจุดอ่อนตรงนี้อยู่เลยพยายามกระจายธุรกิจออกไปเป็นรับจ้างติดตั้ง, ไปสร้างโรงไฟฟ้าที่ต่างประเทศบ้างซึ่งท่านใดที่จะลงทุนก็ต้องมาดูว่าแผนการของเขาจะเป็นอย่างไรและจะมาชดเชยรายได้ Adder 8 บาทได้มากน้อยขนาดไหน